ในยุคที่การผลิตอุตสาหกรรมขยายตัวอย่างสม่ำเสมอและก็ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หน่วยงานภาครัฐและก็หน่วยงานเอกชนทั่วทั้งโลกจึงให้ความสำคัญกับมาตรการวิเคราะห์แล้วก็ควบคุมการปลดปล่อยสารมลภาวะสู่ชั้นบรรยากาศอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่มีการเผาไหม้เชื้อเพลิง ฟอกสีโลหะ โรงงานปิโตรเคมี โรงไฟฟ้า รวมถึงระบบผลิตพลังงานทุกหมวดหมู่ ระบบซึ่งสามารถสำรวจมลพิษที่มีต้นเหตุมากจากปล่องควันอย่างแม่นยำและก็สม่ำเสมอก็เลยแปลงเป็นหัวใจสำคัญของการจัดการสิ่งแวดล้อม หมายถึง CEMS หรือ Continuous Emission Monitoring System ระบบตรวจวัดการปลดปล่อยมลพิษทางอากาศแบบสม่ำเสมอที่ได้รับการยอมรับรวมทั้งใช้อย่างมากมายทั่วทั้งโลก
(https://awj.co.th/N2_Image/20%20Reference/1_REF1.jpg)
คลิ๊กอ่านรายละเอียดได้จาก >> cems (https://awj.co.th/References01.html) https://awj.co.th/References01.html (https://awj.co.th/References01.html)
CEMS คือระบบที่ดีไซน์มาเพื่อวัดความเข้มข้นของแก๊สหรือสารมลภาวะที่ปลดปล่อยออกจากปล่องระบายของโรงงานอุตสาหกรรมในแบบเรียลไทม์ โดยการทำงานแบบอัตโนมัติและสามารถบันทึกผลการตรวจวัดได้ตลอด 24 ชั่วโมงตลอดทั้งปี องค์ประกอบของ CEMS โดยปกติจะประกอบด้วยตัวเซนเซอร์ตรวจค้นก๊าซ หน่วยควบคุม หน้าจอแสดงผล ระบบส่งข้อมูล และก็วัสดุอุปกรณ์เสริมอื่นๆที่ช่วยทำให้สามารถประมวลผลรวมทั้งส่งข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วทันใจ คุณลักษณะเด่นของ CEMS เป็นสามารถวัดสารมลภาวะที่เป็นก๊าซหลัก ดังเช่นว่า ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ รวมทั้งฝุ่นละอองแล้วก็ออกสิเจน ซึ่งล้วนเป็นสารที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของผู้คนและสิ่งแวดล้อม
การตำหนิดตั้ง CEMS ในโรงงานอุตสาหกรรมไม่ได้เป็นเพียงแต่ข้อกำหนดด้านกฎหมายจากภาครัฐเพียงแค่นั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมของหน่วยงาน การมีระบบระเบียบวัดที่แม่นและก็โปร่งใสช่วยให้โรงงานสามารถควบคุมการปลดปล่อยสารพิษไม่ให้เกินมาตรฐานที่กำหนด ทั้งยังสามารถนำข้อมูลที่ได้มาใช้สำหรับในการปรับปรุงแก้ไขแนวทางการผลิต ประหยัดพลังงาน แล้วก็ทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับเพื่อการจัดการเชื้อเพลิงได้อย่างมีระบบอีกด้วย นอกนั้น CEMS ยังมีบทบาทสำคัญสำหรับเพื่อการช่วยเหลือหน่วยงานควบคุมมลภาวะให้สามารถตรวจสอบรวมทั้งประเมินสถานการณ์สิ่งแวดล้อมได้อย่างแม่นยำ เพื่อออกมาตรการควบคุมหรือปรับปรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบ CEMS ที่นำสมัยในตอนนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบออนไลน์แล้วก็ฐานข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษหรือหน่วยงานเขตแดน เพื่อให้สามารถตรวจสอบค่าการปล่อยมลภาวะได้ในทันทีจากระยะไกล ช่วยลดภาระหน้าที่สำหรับการเข้าพิจารณาภาคสนาม แล้วก็เพิ่มความโปร่งสบายใสสำหรับเพื่อการรายงานข้อมูลให้กับพสกนิกรทั่วไปอีกด้วย นอกนั้นเทคโนโลยีใหม่ยังช่วยให้การสอบเปรียบเทียบระบบ CEMS สามารถทำเป็นแบบอัตโนมัติ ลดความผิดพลาดที่เกิดจากการคั่นแซงของมนุษย์รวมทั้งเพิ่มความน่าเชื่อถือของผลการตรวจวัด
การออกแบบและเลือกใช้ระบบ CEMS ที่เหมาะสมจำเป็นต้องอาศัยความเข้าใจในแนวทางการผลิตของแต่ละโรงงานรวมทั้งประเภทของสารมลพิษที่เกี่ยวพัน อาทิเช่น โรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงจะมีการปลดปล่อยก๊าสซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในจำนวนมาก ระบบ CEMS ก็เลยจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในการตรวจหาก๊าซดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นอย่างรอบคอบ ขณะที่โรงงานที่มีการใช้ความร้อนสูง อาทิเช่น โรงหลอมเหล็ก หรือโรงผลิตซีเมนต์ อาจอยากได้ระบบซึ่งสามารถทนต่ออุณหภูมิและก็ฝุ่นละอองได้สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบจะต้องมีการกรองอากาศรวมทั้งควบแน่นน้ำก่อนนำอากาศเข้าสู่เครื่องวัดเพื่อให้ค่าที่ได้มีความแม่นยำ
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ควรจะพินิจพิเคราะห์เป็นการดูแลและรักษารวมทั้งบำรุงรักษาระบบ CEMS อย่างสม่ำเสมอ ทั้งกระบวนการทำความสะอาด ตรวจดูเซนเซอร์ การเปลี่ยนองค์ประกอบที่สลายตัว รวมทั้งการสอบเปรียบเทียบค่าอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งควรทำงานโดยผู้ที่มีความชำนาญที่ผ่านการฝึกอบรมแล้วก็รับประกันจากผู้ผลิตหรือหน่วยงานที่เกี่ยว การบำรุงรักษาที่ดีจะช่วยยืดอายุการใช้แรงงานของระบบและก็ลดการเสี่ยงสำหรับในการกำเนิดความคลาดเคลื่อนของข้อมูลซึ่งอาจนำไปสู่การเสียค่าปรับหรือการหยุดการทำงานโดยมิได้วางแผนล่วงหน้า
หน่วยงานที่เลือกใช้ CEMS ที่มีคุณภาพสูงและก็ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล อย่างเช่น USEPA (United States Environmental Protection Agency) หรือมาตรฐานของยุโรป EN 14181 จะสามารถยืนยันความน่านับถือของผลการวัดต่อหน่วยงานดูแลดูแลแล้วก็หมู่ชนได้อย่างมั่นใจ ในขณะเดียวกันยังสามารถใช้ข้อมูลที่ได้รับมาจากระบบ CEMS เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของการปล่อยมลภาวะแล้วก็เอามาผลิตรายงานด้านสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับแนวทาง ESG (Environmental, Social and Governance) ซึ่งกำลังเป็นที่พอใจในวงการนักลงทุนและพันธมิตรทางธุรกิจทั่วทั้งโลก
ในภาพรวม CEMS ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือวัด แต่คือกลไกสำคัญในการจัดการสิ่งแวดล้อมขององค์กรอย่างมีคุณภาพ ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของหน่วยงานที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นการเตรียมความพร้อมสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาว อีกทั้งในด้านการสร้าง การจัดการจัดแจง รวมทั้งการพัฒนาธุรกิจในสมัยที่คนซื้อรวมทั้งสังคมให้ความเอาใจใส่กับสิ่งแวดล้อมเป็นลำดับต้นๆ
ด้วยหน้าที่ที่ครอบคลุมทั้งยังการวัด ควบคุม รายงาน และก็ปรับปรุง CEMS ก็เลยกลายเป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่ห้ามให้ขาดเลยเด็ดขาดในโลกอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่มุ่งสู่ความยืนยงแล้วก็รับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง
(https://awj.co.th/N1_Image/2Logo.jpg)
แหล่งที่มา บทความ cems https://awj.co.th/References01.html (https://awj.co.th/References01.html)[/size]